อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นอำเภอที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายหลายแห่ง มีพื้นที่ติดลำน้ำโขง มองข้ามไปเห็นเป็นฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (ลาว) มีบรรยากาศและทิวทัศน์ที่น่าสนใจ และสถานที่ที่ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.Thongteaw.com) ของเราจะพาไปท่องเที่ยวด้วยกันนั้น มีความสวยงาม น่าสนใจ และมีความหลากหลายให้ได้สัมผัส นั่นคือ "วัดถ้ำคูหาสวรรค์"

บรรยากาศจากจุดชมวิวแม่น้ำสองสีด้านข้างวัดถ้ำคูหาสวรรค์

สวนตอไม้และพระอุโบสถหลังงาม

     หลายท่านอาจจะสงสัยว่า วัดถ้ำคูหาสวรรค์ มีความสำคัญ และน่าสนใจอย่างไรจึงจะต้องแวะมาชม ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าความน่าสนใจของวัดนั้นเริ่มต้นตั้งแต่นอกกำแพงวัด บริเวณนี้จะมีศาลาและจุดชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำสองสี ด้วยความเพียรพยายามเพ่งพินิจพิจารณาหลายรอบ คาดว่าแม่น้ำสองสีที่ว่านั้นคาดว่าเป็นสีฟ้าครามของแม่น้ำ และสีน้ำที่คล้าย ๆ สีโคลน แต่เนื่องจากสายตาของทีมงานเราไม่ค่อยดีนักจึงเห็นเพียงไกล ๆ ว่าสีต่างกัน (มีคำกล่าวที่เคยได้ยินกันว่า โขงสีปูน มูลสีคราม เห็นจะเป็นความจริง) และตรงจุดนี้จะเห็นพระอุโบสถหลังงามสีขาวแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจงสวยงามเหมือนกับวัดร่องขุ่นที่จังหวัดเชียงราย ดึงดูดให้เหล่านักท่องเที่ยวแวะเข้าเยี่ยมชม

พระพุทธรูปต่าง ๆ ภายในวัดถ้ำคูหาสวรรค์

พระพุทธรูปปางมารวิชัยจำนวนมากเรียงรายบริเวณหน้าถ้ำคูหาสวรรค์

กล้วยไม้และดอกไม้ภายในบริเวณสวนตอไม้

หลากหลายสีสันกับความงามของกล้วยไม้นานาพันธุ์

     ถ้ำคูหาสวรรค์เป็นถ้ำที่เดินไปได้สะดวกไม่ลึก ภายในถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยมากมายหลายองค์ ด้านในถ้ำเป็นที่ตั้งของโลงแก้วที่บรรจุสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่คำคนึง จุลมณี พระนักวิปัสสนาที่มีชื่อเสียง (เนื่องจากทีมงานไปถึงเย็นแล้วจึงไม่สามารถเข้าชมได้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรมาถึงวัดก่อน 16.00 น.)

การเดินทาง
     จากอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มาตามเส้นทางหลวงภายเลข 24 เข้าสู่ตัวอำเภอวารินชำราบ ออกจากอำเภอวารินชำราบด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 217 มุ่งไปอำเภอพิบูลมังสาหาร เมื่อผ่านตัวอำเภอจะพบทางแยกซ้ายมุ่งข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2222 ก่อนถึงตัวอำเภอโขงเจียมจะพบวัดถ้ำคูหาสวรรค์อยู่ติดริมถนน